เมล็ดกาแฟมีกี่ชนิด
กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกาแฟร้อนเย็นหรือแบบผสม กลิ่นหอมและรสชาติที่หลากหลายทำให้กาแฟเป็นที่รักของคนจำนวนมาก แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าเมล็ดกาแฟที่คุณดื่มนั้นมีชนิดอะไรบ้าง และแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะอย่างไร?
วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของเมล็ดกาแฟที่เป็นที่นิยมที่สุด พร้อมบอกวิธีการชงกาแฟให้เหมาะกับเมล็ดแต่ละชนิด มาดูกันว่ากาแฟที่คุณดื่มนั้นเหมาะกับวิธีไหนกันแน่!
1. อาราบิก้า (Arabica) – ราชินีแห่งกาแฟ
อาราบิก้า เป็นเมล็ดกาแฟที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก ซึ่งถือว่าครองตลาดถึงประมาณ 60-70% ของกาแฟที่ขายทั้งหมด มันมักจะมีรสชาติที่นุ่มละมุนและเปรี้ยวเล็กน้อย บางครั้งก็แฝงด้วยกลิ่นผลไม้หรือดอกไม้ ทำให้กาแฟที่ทำจากเมล็ดอาราบิก้ามีความซับซ้อนและหลากหลาย นี่เป็นเมล็ดกาแฟที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟที่นุ่มนวลและมีกลิ่นหอมพิเศษ
ลักษณะเฉพาะ: เมล็ดมีลักษณะเรียวยาวกว่าเมล็ดกาแฟชนิดอื่น ๆ มีเส้นแบ่งกลางโค้งเล็กน้อย
แหล่งปลูก: ประเทศในเขตร้อนชื้น เช่น เอธิโอเปีย บราซิล และโคลอมเบีย
รสชาติ: หอมหวาน นุ่มนวล เปรี้ยวอ่อน ๆ
การชงที่เหมาะสม: เมล็ดอาราบิก้ามักจะเหมาะกับการชงแบบ Pour Over (ดริปกาแฟ) หรือ Cold Brew ซึ่งจะช่วยดึงรสชาติและกลิ่นที่ซับซ้อนของเมล็ดออกมาได้เต็มที่ การชงแบบ เอสเปรสโซ ก็สามารถทำได้ แต่อาจต้องการความแม่นยำในการควบคุมปริมาณน้ำและแรงดันในการชงเพื่อรักษารสชาติอันละเอียดอ่อนของเมล็ดอาราบิก้า
2. โรบัสต้า (Robusta) – พลังความเข้มข้นในทุกแก้ว
ถ้าคุณชื่นชอบกาแฟที่เข้มข้นและมีคาเฟอีนสูง เมล็ดกาแฟ โรบัสต้า คือสิ่งที่คุณต้องการ! มันมีคาเฟอีนมากกว่าอาราบิก้าถึงสองเท่า รสชาติของโรบัสต้ามักจะขมและมีกลิ่นถั่วหรือดินเล็กน้อย เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานจากกาแฟแบบเต็มที่
- ลักษณะเฉพาะ: เมล็ดมีลักษณะกลมและเล็กกว่าอาราบิก้า เส้นแบ่งกลางจะตรง
- แหล่งปลูก: ประเทศในแอฟริกา เวียดนาม และบราซิล
- รสชาติ: ขมเข้ม มีกลิ่นของถั่วและดิน
การชงที่เหมาะสม: โรบัสต้าเหมาะกับการชงแบบ เอสเปรสโซ เพราะคาเฟอีนและรสชาติที่เข้มข้นทำให้กาแฟที่ได้มีความหนักแน่นและเข้มเต็มแก้ว นอกจากนี้ ยังเหมาะกับการใช้ชง กาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) ซึ่งโรบัสต้าเป็นส่วนประกอบหลักในการผลิต นอกจากนี้ การนำไปผสมกับนมสำหรับทำ คาปูชิโน่ หรือ ลาเต้ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความขมลงได้
3. ลิเบริก้า (Liberica) – หายากแต่น่าทึ่ง
ลิเบริก้า เป็นกาแฟที่หายากและมีความเฉพาะตัว มักพบในฟิลิปปินส์และบางส่วนของแอฟริกา เมล็ดลิเบริก้ามีขนาดใหญ่กว่าเมล็ดกาแฟทั่วไป และรสชาติก็แตกต่างไปจากที่คุณเคยเจอ โดยมีความเป็นผลไม้สุกงอม มีรสเฝื่อนนิด ๆ และกลิ่นไม้ที่ชัดเจน
ลักษณะเฉพาะ: เมล็ดมีขนาดใหญ่ และรูปร่างไม่สม่ำเสมอ
แหล่งปลูก: ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และแอฟริกาใต้
รสชาติ: กลิ่นไม้ ผลไม้สุก หอมเป็นเอกลักษณ์
การชงที่เหมาะสม: ลิเบริก้ามักจะเหมาะกับการชงแบบ French Press เนื่องจากช่วยดึงรสชาติที่ลึกและซับซ้อนของเมล็ดออกมาได้ดี การชงแบบ กาแฟดำ (Black Coffee) ก็เป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติและกลิ่นที่เฉพาะตัว
4. เอ็กเซลซ่า (Excelsa) – กาแฟตัวน้อย แต่รสชาติไม่น้อย
เอ็กเซลซ่า เป็นเมล็ดกาแฟที่อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการผสมกาแฟเพื่อเพิ่มความเข้มข้นและรสชาติ เมล็ดชนิดนี้ให้รสชาติที่สดชื่นของผลไม้ที่ยังไม่สุกเต็มที่ เหมาะสำหรับการผสมกับกาแฟชนิดอื่นเพื่อสร้างรสชาติที่หลากหลาย
ลักษณะเฉพาะ: เมล็ดมีขนาดเล็กและเบา
แหล่งปลูก: ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในเวียดนามและมาเลเซีย
รสชาติ: หอมเปรี้ยว ผลไม้ที่ยังไม่สุกเต็มที่ มีกลิ่นผลไม้สดชื่น
การชงที่เหมาะสม: เอ็กเซลซ่าเหมาะกับการชงแบบ กาแฟฟิลเตอร์ หรือ กาแฟดริป เพื่อดึงเอาความสดชื่นและกลิ่นหอมผลไม้ที่เป็นลักษณะเด่นของมัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการผสมกับเมล็ดกาแฟชนิดอื่นเพื่อสร้างเบลนด์ที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น
ประเภทของเมล็ดกาแฟ: เลือกให้ถูกใจ เพิ่มความอร่อยในทุกแก้ว
เมื่อคุณรู้จักกับเมล็ดกาแฟแต่ละประเภทแล้ว การเลือกเมล็ดกาแฟที่เหมาะกับวิธีการชงก็จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น เมล็ดอาราบิก้าเหมาะกับการดริปหรือชงเย็น โรบัสต้ากับเอสเปรสโซ และลิเบริก้ากับ French Press ทุกประเภทของกาแฟสามารถนำมาปรับใช้กับวิธีการชงต่าง ๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่คุณชื่นชอบ